10 มรดกโลก ทวีปเอเชีย ต้องไปใช้ได้สักครั้ง

เมืองมรดกโลก คือ เมืองซึ่งได้รับการคัดเลือกโดย องค์การยูเนสโก (UNESCO) เพื่อบ่งบอกถึงคุณค่าของสิ่งที่มนุษยชาติ หรือธรรมชาติได้สร้างขึ้นมานั่นเอง และวันนี้เราจะพาไปดู 10 มรดกโลก ในเอเชีย รวมถึงในประเทศไทยของเราด้วย เพราะอยู่ใกล้ๆ และเราสามารถไปเที่ยวได้ง่ายๆ ค่ะ มีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันได้เลย
1. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1991 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 1,810 ไร่ โดยตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พื้นที่ 3,000 ไร่ อุทยานฯ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศเหนือ ตามถนนสายเอเซีย ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ในนามนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
2. หลวงพระบาง

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1995 เป็นเมืองเอกของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกันบริเวณนั้นเรียกว่า ปากคาน เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้วย
3. ฮอยอัน

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1999 ฮอยอัน หรือ โห่ยอาน (เวียดนาม: Hội An) เป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว๋างนาม มีประชากรอาศัยอยู่ราว 80,000 คน ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาคารทรงซิโนโปรตุกีส กับการทาสีเหลืองทุกอาคารในเมืองเก่าฮอยอัน เป็นหนึ่งเอกลักษณ์ที่สำคัญของเมือง
ในสมัยของอาณาจักรจามปา บริเวณนี้เคยเป็นเมืองท่าบนปากแม่น้ำทูโบน ซึ่งมีชื่อว่า ไฮโฟ โดยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มีชาวต่างชาติมาตั้งถิ่นฐานและค้าขายในเมืองนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยมีคลองสายหนึ่งคั่นอยู่กลางเมือง มีสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามคลองเพื่อกั้นแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นที่อีกฝั่งหนึ่งของคลอง ตัวสะพานสร้างโดยชาวญี่ปุ่น มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ในปี พ.ศ. 2542 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผลว่าเป็นตัวอย่างของเมืองท่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่างๆภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ ฮอยอันยังคงเป็นเมืองขนาดเล็กเช่นเดิม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนเป็นจำนวนมาก ผู้มาเยือนมักมาเยี่ยมชมร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม ริมฝั่งแม่น้ำมีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารเปิดเรียงรายอยู่มากมายซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าใช้บริการ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่มีอยู่มากมาย
4. สุสานทหารจิ๋นซีฮ่องเต้

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1987 สุสานฉินสื่อหวง (จีนตัวย่อ: 秦始皇兵马俑; จีนตัวเต็ม: 秦始皇兵馬俑; พินอิน: Qínshǐhuáng bīngmǎyǒng ฉินสื่อหวงปิงหมาหย่ง แปลว่า หุ่นทหารและม้าของฉินสื่อหวง) คือ ฮวงซุ้ยของจักรพรรดิจีนฉินสื่อหวงแห่งราชวงศ์ฉิน ตั้งอยู่ที่ตำบลหลินถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน สุสานฉินสื่อหวงได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ชื่อ หยางจื้อฟา ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี
ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม. มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานฉินสื่อหวงจะมีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม. สุสานฉินสื่อหวงได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2530 สุสานฉินสื่อหวงเริ่มก่อสร้างในสมัยฉินสื่อหวง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี 246 – 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของฉินสื่อหวง ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกของฉินสื่อหวง
โครงสร้างและสถาปัตยกรรมโดยรวมของสุสาน มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความลึกเฉลี่ย 35 เมตร กว้าง 145 เมตร และ ยาว 170 เมตร สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน มีความสูง 15 เมตร มีขนาดพื้นที่และความใหญ่โตมโหฬารราวกับสนามฟุตบอล สำหรับภายใน ในส่วนที่ก่อสร้างจากหินนั้นยังคงได้รับการปิดผนึกอย่างดีโดยคงสภาพเดิมเอาไว้ และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน โดยโครงสร้างของสุสานดังกล่าว มีรูปแบบโครงสร้างและการจัดสร้างที่มีความสลับซับซ้อน ขนาดของสุสานมีขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น
5. ชิราคาวาโกะ

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1995 หมู่บ้านชิราคาว่าโกะ (Shirakawago) เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้วยสถาปัตยกรรมบ้านทรงหลังคาทรงมือพนมที่เรียกว่ากัชโชสุคุริซึ่งมีมาแต่โบราณ ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงดำรงการใช้ชีวิตที่มีมาแต่เดิมในอดีต เพื่อต่อสู้กับความหนาวเหน็บและหิมะในฤดูหนาว คุณสามารถมาเที่ยวชิราคาว่าโกะแบบไปเช้าเย็นกลับหรือจะลองสัมผัสบรรยากาศโดยการค้างแรมหนึ่งคืนในหมูบ้านก็ได้
6. หุบเขากาฐมาณฑุ

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1979 หุบเขากาฐมาณฑุ (เนปาล: काठमाडौं उपत्यका) คือแหล่งมรดกโลกของประเทศเนปาล โดยมรดกทางวัฒนธรรมของหุบเขากาฐมาณฑุแบ่งออกเป็นอนุสรณ์สถานและอาคารต่าง ๆ รวม 7 กลุ่มซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างสูงทางประวัติศาสตร์และศิลปะที่ทำให้หุบเขากาฐมาณฑุมีชื่อเสียงในโลก แหล่งมรดกโลกทั้ง 7 แห่งได้แก่ จัตุรัสทรวารแห่งพระราชวังหนุมานโฒกา (กาฐมาณฑุ), จัตุรัสทรวารแห่งปาฏัน, จัตุรัสทรวารแห่งภักตปุระ, เจดีย์พุทธสวยัมภู, เจดีย์โพธินาถ, วัดฮินดูปศุปติ และวัดฮินดูจางคุนารายณ์
7. ป้อมอัครา

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1983 ป้อมอาครา เป็นป้อมเก่าแก่ในเมืองอาครา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เป็นที่ประทับหลักของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลถึง ค.ศ. 1638 ก่อนที่จะมีการย้ายราชธานีจากอาคราไปเดลี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทัชมาฮัลราว 2.5 กิโลเมตร
8. นครวัด

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1992 นครวัด (เขมร: អង្គរវត្ត) เป็นหมู่ปราสาทในประเทศกัมพูชาและเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่รวมกว่า 162.6 เฮกเตอร์ (1.6 ล้านตารางเมตร ซึ่งเท่ากับ 402 เอเคอร์) แรกเริ่มนั้นสร้างขึ้นเป็นเทวลัยในศาสนาฮินดูเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุ ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงกลายเป็นวัดในศาสนาพุทธในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 นครวัดสร้างขึ้นในช่วงต้นของคริสศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าสูรยวรรมันที่ 2 แห่งเมืองยโสธรปุระ (ในปัจจุบันคือเมืองพระนคร) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเขมร สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นเทวลัยประจำรัฐและเป็นสุสานฝังพระศพ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการนับถือในลัทธิไศวนิกายของกษัตริย์องค์ก่อนๆ
เหตุเพราะนครวัดนั้นสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระวิษณุแทนที่จะเป็นพระศิวะ และเนื่องจากเป็นปราสาทที่ได้รับการอนุรักษ์ดีที่สุดในบริเวณที่ตั้งโดยรอบ นครวัดจึงเป็นปราสาทเพียงแห่งเดียวที่ยังคงความเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่มีความสำคัญมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง โดยนครวัดถือจุดสูงสุดของรูปแบบการสร้างสถาปัตยกรรมเขมรแบบดั้งเดิม และได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา มีการปรากฏอยู่บนธงชาติ และได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชาที่มีความสำคัญที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยว
9. มะละกา และ จอร์จทาวน์

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.2008 มะละกา เป็นอาณาจักรเก่าแก่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรมาเลย์ เป็นเมืองท่าสำคัญบนช่องแคบมะละกา โดยเฉพาะในคริสต์ศตวรรษที่15 มะละการุ่งเรืองมาก มะละกาและจอร์จทาวน Historic Cities of the Straits of Malacca ได้ถูกพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตกมากว่า 500 ปี และได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมทั้งเอเชียและยุโรปผสมผสานกัน ทำให้เมืองนี้เกิดมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีอาคารบ้านช่องสถาปัตยกรรมที่งดงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2008
10. บุโรพุทโธ

ขึ้นทะเบียนมรดกโลกปี ค.ศ.1991 โบโรบูดูร์ (อินโดนีเซีย: Borobudur) หรือ บาราบูดูร์ (อินโดนีเซีย: Barabudur) คนไทยรู้จักในชื่อ บรมพุทโธ หรือ บุโรพุทโธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอินโดนีเซีย บริเวณภาคกลางของเกาะชวา ตั้งอยู่ที่เมืองมาเกอลัง ห่างจากยกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1293—1393 โดยบุโรพุทโธเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ถ้าไม่นับนครวัดในประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นทั้งศาสนสถานของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ บุโรพุทโธจะเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก
บทความน่าสนใจ

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา – ไทย
อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งเคยเป็นอดีตราชธานีของชาติไทยที่มีอายุกว่า 417 ปี ในช่วงระยะเวลาที่ยาวนาน กรุงศรีอยุธยามีความเจริญก้าวหน้าทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปกครอง กฎหมาย

บุโรพุทโธ – อินโดนีเซีย
ในโลกเรานี้มีสถานที่สวยงาม ลึกลับ และเต็มไปด้วยเรื่องราวเก่าแก่ทางวัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีเอกลักษณ์ ความเชื่อที่แตกต่าง มีความหลากหลายทางเชื้อชาติเป็นอย่างมาก และวันนี้ เราจะพาไปยัง

นครวัด – กัมพูชา
นครวัดนครธม กัมพูชา ดื่มด่ำวัฒนธรรมอันล้ำค่าระดับโลก วันนี้เราจะพามาพบกับสถาปัตยกรรมโบราณอันเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน กว่า 2,000 ปี อีกทั้งความยิ่งใหญ่ตระการตา จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1